เกี่ยวกับเรา

-
ปี 2518 
 
บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจสั่งเข้าผลิตภัณฑ์ “ NBK , FBK ” จาก ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นระยะบุกเบิกที่ลำเค็ญมาก เพราะมีพนักงาน เริ่มแรกเพียง 2 คน คือคุณอาภาและเสมียนผู้หญิง 1 คน ผลิตภัณฑ์ทั้งสองที่สั่งเข้าเป็นยี่ห้อใหม่ ในขณะนั้นลูกค้าก็เป็นกลุ่ม ใหม่ที่พึ่งเริ่มติดต่อกันทางธุรกิจ ประกอบกับบริษัทพึ่งเริ่มทำธุรกิจ สั่งเข้า และมีผู้ค้ารายใหญ่ที่มีสินค้าดังๆ ติดตลาด และมีเงินทุนมาก เป็นจ้าวตลาดอยู่หลายราย
ปีแรกนี้บริษัทมียอดขายเพียง 4 ล้านบาท
ปี 2519
 
การจดทะเบียนจัดตั้ง “ บริษัท อรรถบูรณ์ จำกัด ” ในวันที่ 29 กรกฎาคม โดยคุณสมทรง พิจิตรศิริ เป็นเจ้าของ และประธานบริษัท มีคุณอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ เป็นผู้จัดการ

การดำเนินธุรกิจถูกบีบคั้นจากจ้าวตลาดเดิมมาก แต่การแนะนำสินค้าใหม่ และการรุกคืบเข้าไปในร้านค้าก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นด้วยความมานะทุ่มเทอย่างยิ่งทั้งจากผู้บริหาร และทีมงานใหม่ๆ ที่ทยอยเข้ามาเป็นสมาชิก
ปี 2522
 
ภาวะการแข่งขันยิ่งรุนแรงมาก แต่ยอดขายของบริษัทก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นทุกปีในอัตราที่น่าพอใจ ทั้งที่สินค้าของบริษัทก็ยังจัด เป็นสินค้าหน้าใหม่อยู่ สิ่งนี้จึงเป็นความภาคภูมิใจของทีมงานทุกคน ที่เกิดขึ้น และเติบโตมาได้โดยมิได้อิงอยู่บนฐานของ สินค้ายี่ห้อดังๆ หากแต่สำเร็จได้ด้วยความสามารถและการเอาชนะของพนักงานทุก คนร่วมกัน
ปี 2523
 
บริษัทได้รับสิทธิในการนำเข้าสินค้ายี่ห้อ
“ AKEBONO ” ที่โด่งดังในตลาด เป็นสิ่งที่ทำให้ลดฐานะความเสียเปรียบต่อคู่แข่งขันในตลาดลง สมาชิกใหม่ทยอยเข้าร่วมทีมงานในบริษัทมากขึ้นตลอดเวลา
ปี 2528
 
บริษัทได้ขยายการนำสินค้าตัวใหม่ๆ เพิ่มขึ้นตลอดเวลา อีกทั้งเพิ่มปริมาณการนำเข้าผ้าคลัตช์เป็นจำนวนมาก จึงเป็นความจำเป็นในการบริหารให้ครบวงจรโดยการจัดตั้งหน่วยประกอบจานคลัตช์ ( ส่วนการผลิต ) ขึ้นในบริษัท นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่งานอุตสาหกรรมของบริษัท
ปี 2531
 
คุณสมทรง พิจิตรศิริ เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย ตำแหน่งเจ้าของและประธานกรรมการจึงว่างลง โครงสร้างการถือหุ้น ของบริษัทจึงเปลี่ยนไปเป็นผู้ถือหุ้นหลายคน การบริหารนโยบายถูกกำหนด และรับผิดชอบโดยกลุ่มผู้ถือหุ้น และกรรมการ บริษัท ขยายงานประกอบจานคลัตช์ โดยเปิดโรงงานที่บางบัวทอง ใช้ชื่อว่า “ บริษัท เอ็มคลัตช์อุตสาหกรรม จำกัด ” เศรษฐกิจโลกและในประเทศเฟื่องฟูมาก
ปี 2532
 
ภาวะนำเข้าเริ่มมีปัญหาติดขัด เพราะผู้ผลิตในต่างประเทศส่งสินค้าล่าช้า และให้ได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ มีผลให้สินค้าบางตัว เริ่มเข้าไม่ต่อเนื่อง และไม่เพียงพอต่อการขาย แต่ยอดการขายรวมยังเพิ่มขึ้นสูงสุดเกิน 100 ล้านบาท

บริษัทตัดสินใจลงทุนในโครงการผลิตจานคลัตช์รถยนต์ โดยได้รับส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาลไทย และได้ร่วมลงทุนในธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์กับบุคคลอื่นในนาม “ บ. 1932 ดีเวลลอปเมนท์ จก. ”
ปี 2533
 
ขยายการผลิตผ้าคลัตช์เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
ปี 2534
 
บริษัทต้องการให้สินค้าขยายตัวไปยังตลาดต่างประเทศจึงได้ร่วมลงทุนระหว่างบริษัท NIPPON CLUTCH ประเทศญี่ปุ่น (ในเครือ “AISIN” “ASCO”)โดยใช้ชื่อว่า “ บจก. ไทยเอ็นเคเค เมทัล ” กับบริษัท อรรถบูรณ์ จำกัด โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุน จาก BOI ด้วยเงินลงทุนขั้นต้น 70 ล้านบาทเพื่อพัฒนาคุณภาพจานคลัตช์รถยนต์ และงานโลหะอื่นๆ เช่นเดียวกับการผลิตในประเทศ ญี่ปุ่น โดยทำการผลิตเพื่อส่งออกมากกว่า 95% ของกำลังการผลิตทั้งหมดด้วยความเชี่ยวชาญของทีมงาน และกระบวนการผลิตในระดับ JIS ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุด

ผลิตภัณฑ์จึงเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ในประเทศและผู้ใช้รถทั่วไปในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ นี่คือหลักประกันที่ยืนยันได้ในประสิทธิภาพ ของจานคลัตช์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับรถยนต์ทุกประเภท
ปี 2536
 
ขยายการผลิตผ้าคลัตช์เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
ปี 2539
 
เปิดอาคาร “ อรรถบูรณ์ ”
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้เกี่ยวข้องทางธุรกิจในความมั่นคง และเข้มแข็งของบริษัท อรรถบูรณ์
โดยได้ย้ายมาอยู่ที่สำนักงานใหม่แห่งนี้ เลขที่ 667 / 15 ถนนจรัลสนิทวงศ์ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700 ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2539
ปี 2540
 
ค่าเงินบาทลอยตัวไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท แต่ยอดขายของบริษัท แกว่งตัวเล็กน้อยซึ่งยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เนื่องจาก ผู้บริหารมีความสามารถ และวิสัยทัศน์ทำให้บริษัทผ่านพ้นภาวะ วิกฤตเหล่านั้นมาได้ โดยมิได้ปลดพนักงานออกแต่อย่างใด และได้ มีการนำเข้าเครื่องเจียรนัยจานเบรกยี่ห้อ “ แวนนอแมน ” จาก USA.
ปี 2541
 
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย บริษัทยังได้นำเข้าเครื่องเจียรนัยจานเบรกยี่ห้อ “ ควิกเวย์ ” จาก USA.
ปี 2542 - 2543
 
บริษัทให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบงาน และทรัพยากรมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีการจัดอบรมพนักงานทั้งในและนอกสถานที่ และปรับระบบงานให้มีประสิทธิภาพจนได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9002 จากบริษัท SGS (ส่วนบริหาร) และบริษัท BVQI (ส่วนการผลิต) ด้วยนโยบายที่ว่า “ เรามุ่งมั่นพัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยี เพื่อให้บริการที่มีคุณภาพ เป็นที่พึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ” และ “ เรามุ่งมั่นผลิตสินค้า และบริการที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ”
ปี 2544 - 2549
 
เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลงทั่วทุกประเทศ สภาวะการแข่งขันแย่งชิงสูงขึ้น และเพื่อความอยู่รอดขององค์กร บริษัท อรรถบูรณ์ จำกัด จำเป็นต้องร่วมแข่งขันกับบริษัทอื่นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และจำเป็นต้องควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ได้ในระดับต่ำ บริษัท อรรถบูรณ์ จำกัด และบริษัท เอมคลัทช์อุตสาหกรรม จำกัด ถือเป็นเครือเดียวกันมาตลอด 15 ปี จึงตัดสินใจรวมกิจการ เพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายใต้ชื่อ “ บริษัท อรรถบูรณ์ จำกัด ” และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร และพนักงานทุกคนตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2544

และบริษัท อรรถบูรณ์ จำกัด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบมาตรฐานคุณภาพ ISO ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจึงมีนโยบาย ให้ดำเนินการปรับเปลี่ยนระบบบริหารคุณภาพทั้งส่วนบริหาร ส่วนการตลาด และส่วนผลิต จาก VERSION ISO 9002 : 1994 เป็น ISO 9001 : 2000

ปี 2550
 
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้เล็งเห็นถึงการค้าในยุคโลกาภิวัตน์ และอนาคตที่จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และบริษัทจะต้อง ร่วมแข่งขันให้ได้ จึงให้มีการอบรมและจัดทำระบบมาตรฐานเพิ่มคือ
ISO / TS 16949 : 2002 ควบคู่กับ
ISO 9001 : 2000 ที่มีอยู่
ปี 2553
 
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมีนโยบายให้ดำเนินการปรับเปลี่ยน ระบบบริหารคุณภาพทั้งส่วนบริหาร ส่วนการตลาดและส่วนผลิตจาก
VERSION ISO/TS 16949: 2002 เป็น
VERSION ISO/TS16949 : 2009
ปี 2560
 
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมีนโยบายให้ดำเนินการปรับเปลี่ยนระบบบริหารคุณภาพทั้งส่วนบริหาร ส่วนการตลาดและส่วนผลิตจาก VERSION TS 16949: 2009 เป็น VERSION IATF 16949 : 2016

เราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้และความพึงพอใจของการเยี่ยมชมของคุณ เพิ่มความสะดวกในการเรียกดูและทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย เมื่อคุณใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไปแสดงว่าคุณยอมรับคุกกี้ที่จำเป็นซึ่งจำเป็นสำหรับฟังก์ชั่นของเว็บไซต์ เมื่อคลิก “ข้าพเจ้าตกลง” จะถือว่าคุณอนุญาตให้เราใช้คุกกี้ทั้งหมดตามนโยบายคุกกี้ของเรา คุณสามารถปรับคุกกี้ของคุณได้ทุกเมื่อในโปรแกรมจัดการคุกกี้ของเรา